สุดแสนโรแมนติก...ท่ามกลางทุ่งดอกทิวลิป


 TULIP  ถือเป็นดอกไม้ยอดนิยม อันดับสามรองลงมาจาก  ดอกกุหลาบและดอกเบญจมาศ ว่ากันว่า  ถิ่นกำเนิดของดอกทิวลิปนั้นไม่ได้มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์อย่างที่เข้าใจกัน แต่มาจากตะวันออกกลาง   เมื่อพันกว่าปีมาแล้ว ดอกทิวลิปเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ตุรกี 


ดอกทิวลิป (Tulip) ดอกไม้เมืองหนาวออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ ในปัจจุบันมีการผสมพันธุ์ทิวลิปมากกว่า 100 ชนิน เราจะเห็นทุ่งทิวลิปคุ้นตาตามหนังสือท่องเที่ยว และกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ใครที่เคยไปเยือนประเทศนี้ต้องเคยไปเที่ยวสวนเคอเคนฮอฟ ชานเมืองลิซเซ่ (Lisse) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทิวลิปที่ใหญ่และสำคัญยิ่งของฮอลแลนด์

ดอกทิวลิป ถือเป็นสัญลักษณ์ของ  จินตนาการ ความใฝ่ฝัน คู่รักที่สมบูรณ์แบบ  และ ความรักที่เปิดเผย


ความหมายของดอกทิวลิป ดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่ใครๆ ก็อยากรู้ความหมาย ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์ น่าหลงใหล มาดูกันดีกว่าว่าดอกทิวลิปแต่ละสีนั้นให้ความหมายอะไรบ้าง
ดอกทิวลิปสีแดง หมายถึงรักที่ไม่ปิดบัง ซ่อนเร้น เปิดเผยอย่างจริงใจ  เหมาะสำหรับเป็นของขวัญ แด่คนรักของคุณ  ดอกทิวลิปยังเป็นต้นไม้ตามหลักฮวงจุ้ยที่เหมาะแก่การปลูกในบ้าน เชื่อกันว่า ดอกทิวลิปแดง  จะนำชื่อเสียงและเกียรติยศเข้ามาในชีวิตเราได้
ดอกทิวลิปชมพูเป็นดอกยอดนิยมแทบจะทุกโอกาส   สีชมพูนั้นเปรียบเสมือน ความสุขอันสมบูรณ์แบบ และความมั่นใจ  มีความหมายอีกแง่หนึ่ง  คือ   “ คนที่เปิดเผย ไม่ปิดบัง” อีกด้วย 
ดอกทิวลิปสีเหลือง มีความหมายว่า ความคิดอันเบิกบาน และแสงตะวันส่อง ด้วยเหตุผลของความหมายอันหลากหลายนี้เองทำให้ดอกทิวลิปยังคงได้รับความนิยม อยู่เสมอ 
ดอกทิวลิปสีส้มนั้นสื่อถึงความอบอุ่น  ความสุข  ความงดงาม และความมีเสน่ห์


 
หากท่านใดอยากชื่นชมความสวยงามของดอกทิวลิป ขอเชิญท่านพบกับ เทศกาลสวนดอกทิวลิป Tulip Festival ที่จะจัดขึ้นในช่วงตุลาคม และพิเศษที่สุดในปีนี้โดยจะเป็นงานทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา ทั้งดอกทิวลิปมากกว่า 650 สายพันธุ์บานทั่วทุ่งที่ Huis Ten Bosch hokkaido และเป็นงานชมดอกทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย 
 


ตุ๊กตา...แห่งจินตนาการ

 
 "ฮิดะ ทาคายาม่า" (Hida Takayama) เมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งในจังหวัด "กิฟุ" (Gifu) ประเทศญี่ปุ่น เคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองในยุคเดียวกับเมืองเกียวโต นอกเหนือจากความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่มีทั้งหุบเขา แม่น้ำและลำธารแล้ว ทาคายาม่ายังได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม เมืองแห่งช่างศิลป์ฝีมือระดับสูง และ เมืองเก่าแก่ที่งดงามไปด้วยงานศิลป์แทบทุกด้าน
 แต่ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อนักท่องเที่ยวแวะมาที่เมืองทาคายาม่าแห่งนี้ นอกจากของฝากพื้นเมือง เช่นสาเกชั้นเลิศ ของดอง และผลไม้สดๆ แล้ว ต้องไม่ลืมซื้อตุ๊กตา "ตุ๊กตาซารุโบโบะ" (Sarubobo) Saru = ลิง Bobo = เด็ก  เป็นตุ๊กตาที่มีส่วนสำคัญในวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่นแห่งเมืองทาคายาม่า ตุ๊กตามีลักษณะคล้ายกับคน แต่ไม่มีหน้าตา ตัวสีแดง สมัยก่อนคนที่เป็นพ่อแม่จะทำไว้ให้หญิงเล่นแก้เหงา
 


ส่วนสาเหตุที่ไม่มีหน้าเพราะต้องการให้เด็ก ๆ จินตนาการว่า ถ้าเราเป็นเด็กดี ตุ๊กตาก็จะมีหน้าตาน่ารัก ถ้าเราโกรธอารมณ์ไม่ดีตุ๊กตาก็จะอารมณ์ไม่ดีตามไปด้วย   


ปัจจุบันตุ๊กตาซารุโบโบะนี้กลายเป็นตุ๊กตาเครื่องราง ที่มีความเชื่อแตกต่างกันไปสำหรับท่านที่จะซื้อเป็นของฝาก เค้ามี หลายขนาด หลายสีให้เลือกครับ ตัวสีแดงเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมแต่ความจริงแล้วมีหลายสี แต่ละสีจะมีความหมายเช่นสีทองเรื่องเงินทอง สีชมพูเรื่องความรัก สีฟ้า, น้ำเงินเรื่องการเรียน เป็นตุ๊กตานำโชคที่นักท่องเที่ยวนั้นไม่ควรพลาด.... 


ตลาดปลาซึกิจิ สวรรค์แห่ง SuShi

 

ตลาดปลาซึกิจิ ( Tsukiji Fish Market )
   หากกล่าวถึงวัตถุดิบปรุงอาหารคงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการกินแน่นอน เพราะที่นี่คือตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ตลาดปลาซึกิจิ ( Tsukiji Fish Market ) ตลาดปลาแห่งนี้จะเริ่มคึกคักตั้งแต่ 5 โมงเย็นเรื่อยไปจนถึงดึก เพื่อรับอาหารสดและผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากทั่วทุกมุมโลกที่ขนส่งมาทั้งทางรถ เรือ และเครื่องบิน ราวตี 3 ผู้ค้าจะเตรียมสินค้าสำหรับการประมูล โดยจะมีพ่อค้าขายส่งทำการตรวจคุณภาพและประเมินราคาสินค้าก่อน ตี5 ครึ่งก็จะเริ่มเปิดประมูลสินค้า ซึ่งผู้ประมูลสามารถรอรับสินค้าได้ภายในวันเดียวกันเลย



  



คนญี่ปุ่นพิถีพิถันเรื่องการกินเป็นอย่างมาก ทำให้บรรดาพ่อครัวที่มาหาวัดถุดิบไปทำอาหารต่างก็ใช้ความชำนาญที่มี เลือกอาหารที่ดีทีสุด ขนาดบางคนถึงกับใช้ผ้าเช็ดลงไปบนเนื้อปลาเพื่อดูเนื้อเยื้อกับแบบชัด ๆ และนอกจากปลาแล้ว ยังมี ปลาหมึก กุ้ง หอบ ปู สัตว์ทะเลชนิดแปลก ๆ


  


สำหรับการไปที่ตลาดปลาแห่งนี้ แต่ต้องออกเดินทางเช้าตรู่ เรียกกันว่าเดินทางกันตั้งแต่รถไฟเที่ยวแรกของวันเลยก็ว่าได้ ก็ช่วงเวลาประมาณตีสี่ครึ่งหรือตีห้า เพื่อไปให้ทันเวลาดูพ่อค้าแม่ค้าประมูลปลากัน การเดินทางไปได้ 2 ทาง คือ ให้ใช้รถไฟใต้ดินสาย Oedo Line ไปยังสถานี Tsukiji-Shijo Station หรือ  เดินทางโดยใช้รถไฟใต้ดินสาย Hibiya Line ไปยังสถานี Tsukiji Station แต่ทางแรกใกล้กว่านะ และที่สำคัญที่สุดตลาดนี้จะปิดทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดประจำปีหลายๆวัน

ซูชิที่ทำจากเนื้อปลาโอสดๆ
หวังว่าหลายๆท่าน คงอยากเดินทางไปสัมผัสแหล่งวัตถุดิบอาหารของญี่ปุ่นกันบ้างแล้ว เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปกี่ครั้งก็ได้คำตอบเดียว คือความประทับใจ และอยากกลับไปสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง